วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การเอาคืนของธรรมชาติ

แสงเหนือแสงใต้คืออะไร ?

Aurora Borealis (Northern Lights) In Alaska
          แสงเหนือหรือแสงออโรร่า (Aurora) เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้น ณ ท้องฟ้าประเทศ นอรเวร์
 ออโรรา เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่มีแสงเรืองบนท้องฟ้าในเวลากลางคืน โดยมักจะขึ้นในบริเวณแถบขั้วโลก โดยบางครั้งจะเรียกว่า แสงเหนือ หรือ แสงใต้ ขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิด
ปรากฏการออโรราเป็นตัวอย่างปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ที่น่าทึงที่สุดที่เกิดขึ้นในอวกาศที่ใกล้พื้น โลก มันอาจปรากฏจากสิ่งจางๆ เป็นวงนิ่ง แล้วระเบิดออกมาเป็นสีต่าง ๆ พุ่งกระจายภายในเวลาไม่กี่วินาที บางครั้งจะปรากฏเหมือนมันจะแตะกับพื้น หรือในเวลาอื่นอาจเห็นมันพุ่งสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า แต่ความจริงแล้ว แสงออโรรานั้นเกิดขึ้นที่ความสูงจากพื้นโลก (altitudes) ประมาณ 100 ถึง 200 กิโลเมตร บริเวณที่อยู่บริเวณบรรยากาศชั้นบนที่อยู่ใกล้กับอวกาศ

ธรรมชาติสร้างสิ่งต่างๆ

วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

สุริยุปราคา

                    เงาของดวงจันทร์มี 2 แบบ คือ เงามืด กับเงามัวพื้นที่ส่วนใดบนโลกเงามืด ของดวงจันทร์ทอดผ่าน ผู้คนในแทบนั้นจะมองเห็นดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์มืดหมดดวง เกิดเป็นสุริยุปราคาเต็มดวง ส่วนผู้คนในพื้นที่ที่งัวเคลื่อนผ่านจะมองเห็นเป็น สุริยุปราคาชนิดบ่างส่วน ในกรณีที่เงามืดของดวงจันทร์ทอดผ่านเลยขั้วเหนือเหนือขั้วใต้ของโลกไปใน อวกาศครั้งนั้นก็ไม่เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงให้เห็น คงมีแต่เพียงสุริยุปราคาชนิดบ่างส่วนให้เห็นในพื้นที่ที่เงามัวเคลื่อนผ่าน เท่านั้น สุริยุปราคาแบบที่ 3 เกิดขึ้นเมื่อ เงามืดของดวงจันทร์เคลื่อนผ่านโลก แต่เงามือไม่ยาวพอที่จะตกลงสัมผัสพื้นโลกได้ ปลายกรวยแหลมของเงามืดจึงตกลงที่จุดหนึ่งในอวกาศก่อนสัมผัสผิวโลกกรณีเกิด ขึ้นเมื่อดวงจันทร์อยู่ไกลออกไปในวงโคจรรอบโลก จึงปรากฎมีขนาดเล็กกว่าดวงอาทิตย์จนไม่สามารถบดบังดวงอาทิตย์ให้มือมิดหมด ดวงได้ยังคงมีขอบดวงอาทิตย์ เหลือล้อมดวงดำของดวงจันทร์ เรียกว่าเป็น สุริยุปราคาวงแหวน (Annular ecilpse)
“สุริยุปราคา” หรือ “สุริยะคราส” เกิดจากการที่ดวงจันทร์โคจรผ่านหน้าดวงอาทิตย์ เราจึงมองเห็นดวงอาทิตย์ค่อยๆ แหว่งมากขึ้น จนกระทั่งมืดมิดหมดดวง และโผล่กลับมาอีกครั้ง คนในสมัยโบราณเชื่อว่า “ราหูอมดวงอาทิตย์” สุริยุปราคาจะเกิดขึ้นเฉพาะในวันแรม 15 ค่ำ แต่ไม่เกิดขึ้นทุกเดือน เนื่องจากระนาบที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ และระนาบที่ดวงจันทร์โคจรรอบโลก มิใช่ระนาบเดียวกัน หากตัดกันเป็นมุม 5 องศา (ภาพที่ 1) ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดสุริยุปราคาบนพื้นผิวโลก จึงมีเพียงประมาณปีละ 1 ครั้ง และเกิดไม่ซ้ำที่กัน เนื่องจากเงาของดวงจันทร์ที่ทาบไปบนพื้นผิวโลก ครอบคลุมพื้นที่ขนาดเล็ก และโลกหมุนที่รอบตัวเองอย่างรวดเร็ว
เงาของดวงจันทร์
ดวงจันทร์เคลื่อนที่บังแสงอาทิตย์ ทำให้เกิดเงาขึ้น 2 ชนิด คือ เงามืด และเงามัว
           เงามืด (Umbra) เป็นส่วนที่มืดที่สุด เนื่องจากดวงจันทร์บดบังดวงอาทิตย์จนหมดสิ้น ถ้าหากเข้าไปอยู่ ในเงามืด เราจะมิสามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ได้เลย
           เงามัว (Penumbra) ไม่มืดมากนักเนื่องจากได้รับแสงเป็นบางส่วนจากอาทิตย์ ถ้าหากเราเข้าไปอยู่ ในเงามัว เราจะมองเห็นบางส่วนของดวงอาทิตย์โผล่พ้นส่วนโค้งของดวงจันทร์ออกมาก
สุริยุปราคา 3 ชนิด
           สุริยุปราคาเต็มดวง (Total Solar Eclipse) เกิดขึ้นเมื่อผู้สังเกตการณ์อยู่ในตำแหน่งเงามืดบนพื้นผิวโลก (A) ดวงจันทร์จะบังดวงอาทิตย์จนหมดสิ้น
           สุริยุปราคาบางส่วน (Partial Solar Eclipse) เกิดขึ้นเมื่อผู้สังเกตการณ์อยู่ในตำแหน่งของเงามัว (B) จึงมองเห็นดวงอาทิตย์เป็นสว่างเป็นเสี้ยว
           สุริยุปราคาวงแหวน (Annular Solar Eclipse) เนื่องจากวงโคจรของดวงจันทร์เป็นรูปวงรี บางครั้งดวงจันทร์อยู่ห่างจากโลกมากเสียจนเงามืดของดวงจันทร์จะทอดยาวไม่ถึงผิวโลก (C) ดวงจันทร์จะมีขนาดปรากฏเล็กกว่าดวงอาทิตย์ ทำให้ผู้สังเกตการณ์มองเห็นดวงอาทิตย์ปรากฏเป็นรูปวงแหวน

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ลาวา สีคราม



Lava ลาวา คือ หินหลอมเหลว ที่ถูกปลดปล่อย หรือเคลื่อนสู่ผิวโลก ซึ่งธรรมดามันก็จะมีสีแดง แต่ ธรรมชาติทำให้เราประหลาดใจได้เสมอกับ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ลาวาสีคราม

รายละเอียด ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ลาวา สีคราม

  • ภาพที่เห็นทั้งหมดในบทความนี้เป็นภาพจาก ภูเขาไฟ Kawah-Ijen ในประเทศอินโดนีเซีย ที่เกิดขึ้นในปี 2008 และ 2005
  • ปรากฏการณ์นี้จะสามารถเห็นได้เด่นชัดในคืนเดือนมืด
  • ปรากฏการณ์ธรรมชาติ นี้เกิดจากกำมะถันที่หลอมละลาย จากความร้อน จะปลดปล่อยเปลวเพลิงสีฟ้าสดออกมา ยิ่งในสภาพที่มีออกซิเจนสูงจะยิ่ง เห็นเปลวเพลิงสีฟ้าได้เด่นชัดขึ้น
คลังภาพ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ลาวา สีคราม


ลาวาสีคราม ที่ไหลลงมาตามลาดภูเขาไฟ Kawah-Ijen


เห็นเป็นสีครามสวยงามเช่นนี้ แต่พวกมันมีอุณหภูมิ ไม่ต่ำกว่า 444.6 องศาเซลเซียส


ช่างเป็นความงามที่น่าสะพึงยิ่งนัก


ยิ่งซูมเข้าไปดูไกล้ จะเห็นเป็นเปลวเพลิงสีฟ้าสดอยางชัดเจน


เมื่อลาวาสีคราม เย็นตัวลงก็จะกลายเป็น กำมะถันสีเหลืองสด กลิ่นฉุน ทำให้ ภูเขา Kawah-Ijen เป็นเหมืองกำมะถัน

สึนามิ ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่น่ากลัว

สึนามิ
สึนามิ




          จาก เหตุการณ์ภัยธรรมชาติที่ถาโถมเข้าใส่นานาประเทศตั้งแต่ต้นปี 2554  ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 22 กุภาพันธ์ 2554 ณ ประเทศนิวซีแลนด์ ที่คร่าชีวิตของประชากรถึง 200 ราย หรือแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในประเทศจีน เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2554 ที่เขย่าพื้นที่มณฑลยูนนาน จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 ศพ และบาดเจ็บอีก 174 คน รวมถึงเหตุการณ์สึนามิที่่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีความรุนแรงถึง 8.9 ริกเตอร์   และเกิดคลื่นสึนามิความสูง 10 เมตร เข้ากระหน่ำพื้นที่ตามแนวชายฝั่งทางเหนือของประเทศญี่ปุ่น ทำให้เกิดความสูญเสียและเป็นหายนะครั้งใหญ่ของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ และล่า สุด (11 เมษายน) เกิดแผ่นดินไหว 8.6 ริกเตอร์ โดยศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ใต้ทะเลลึกราว 33 กิโลเมตร ห่างจากชายฝั่ง เมืองบันดาร์อาเจะห์ ของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ราว 434 กิโลเมตร
          จากเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศอินโดนีเซียดังกล่าว ทำให้มีการคาดการณ์ว่าอาจจะเกิดสึนามิ ว่าแล้ววันนี้เราจะมาย้อนดูกันว่า สึนามิ เกิดขึ้นได้อย่างไร และเหตุใดจึงมีอำนาจทำลายล้างมหาศาลยิ่งนัก

สึนามิคร่าคนอินโด อเมริกา ดับ 2 ศพ

          สึนามิ หรือ คลื่นสึนามิ (tsunami) คือ เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่มีลักษณะเป็นระลอกคลื่น ที่เกิดขึ้นจากการที่น้ำในทะเลสาบหรือในท้องมหาสมุทรจำนวนมหาศาล เกิดการเคลื่อนย้ายถ่ายเทจากบริเวณหนึ่งสู่อีกบริเวณหนึ่งอย่างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากการเกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินเคลื่อนตัว ภูเขาไฟระเบิด หรือจากวัตถุนอกโลก เช่น ดาวหาง หรืออุกกาบาต ตกสู่พื้นทะเลหรือมหาสมุทรบนผิวโลก คลื่นสึนามิที่เกิดขึ้นนี้จะถาโถมเข้าสู่พื้นที่ชายฝั่งทะเลด้วยความรวดเร็ว และรุนแรง ทำให้เกิดความเสียหายอย่างที่ไม่อาจประเมินได้ต่อชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนที่อยู่อาศัยที่ต้องพังพินาศไป พร้อม ๆ กับมนุษย์จำนวนมากมายที่อาจได้รับบาดเจ็บและล้มตายไปด้วยฤทธิ์ของมหาพิบัติ ภัยที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน

          โดยก่อนที่จะเกิดคลื่นสึนามินั้น มักจะมีการส่งสัญญาณเตือนจากธรรมชาติมาสู่มนุษย์ ด้วย การเกิดแผ่นดินไหว หรือจากการเคลื่อนตัวของแผ่นดินใต้ทะเล ที่เกิดการเปลี่ยนรูปร่างอย่างกะทันหัน จนทำให้น้ำทะเลเกิดการเคลื่อนตัวตาม เพื่อปรับระดับให้เข้าสู่จุดสมดุลและจะก่อให้เกิดคลื่นสึนามิ ซึ่งการเปลี่ยนรูปร่างของพื้นทะเล มักเกิดขึ้นเมื่อเกิดแผ่นดินไหว เนื่องจากการขยับตัวของเปลือกโลก ซึ่งจะเกิดบริเวณที่ขอบของเปลือกโลกหลายแผ่นเชื่อมต่อกันที่เรียกว่า รอยเลื่อน (fault) เช่น บริเวณขอบของมหาสมุทรแปซิฟิก นอกจากแผ่นดินไหวแล้ว ดินถล่มใต้น้ำที่มักเกิดร่วมกับแผ่นดินไหวสามารถทำให้เกิดคลื่นสึนามิได้ เช่นกัน นอกจากการกระทบกระเทือนที่เกิดใต้น้ำแล้ว การที่พื้นดินขนาดใหญ่ถล่มลงทะเล หรือการตกกระทบพื้นน้ำของเทหวัตถุ ก็สามารถทำให้เกิดคลื่นได้ คลื่นสึนามิที่เกิดในรูปแบบนี้จะลดขนาดลงอย่างรวดเร็วและไม่มีผลกระทบต่อชาย ฝั่งที่อยู่ห่างไกลมากนัก



          และแม้แต่ประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงน้อยมากที่จะเกิดสึนามินั้น ก็ยังได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์โลกนี้ โดยเมื่อ  26 ธันวาคม 2547 ได้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ขึ้นในประเทศไทย  เมื่อเกิดคลื่นสึนามิครั้งที่รุนแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ถาโถมเข้าใส่ใน พื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ที่มีพื้นที่อยู่ติดกับชายฝั่งทะเลอันดามัน  คือ ภูเก็ต พังงา ระนอง กระบี่ ตรัง และสตูล โดยเฉพาะที่จังหวัดพังงา กระบี่ และภูเก็ต มีการสูญเสียมากที่สุด เป็นพิบัติภัยทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงและรวดเร็ว โดยไม่มีผู้ใดคาดคิดมาก่อน จึงไม่ได้มีการระมัดระวังและป้องกันไว้ล่วงหน้า ทำให้มีประชาชนถูกคร่าชีวิตไปกว่า 220,000 คน

          และล่าสุด ได้เกิดคลื่นสึนามิ สูงถึง 10 เมตร ซึ่งพัดเข้าถล่มญี่ปุ่นกินพื้นที่ถึง 10 กิโลเมตร ส่งผลบ้านเรือนประชาชน รถยนต์และรถบรรทุกจำนวนมากให้พื้นที่ จังหวัดมิยะงิ จังหวัดฟุกุชิมะ และเมืองเซ็นได ทำเอาบ้านเรือนประชาชน รถยนต์และรถบรรทุกจำนวนมากถูกคลื่นสึนามิพัดลงสู่ทะเล และสาเหตุที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นประสบภัยธรรมชาติอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะแผ่นดินไหว และสึนามินั้น เกิดจากญี่ปุ่นตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า วงแหวนแห่งไฟซึ่งเป็นศูนย์กลางของภูเขาไฟ

วงแหวนแห่งไฟ

        สึนามิเป็นภัยธรรมชาติที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยที่เราไม่อาจรู้ได้เลยว่า "สึนามิ ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่น่ากลัว"  นี้ จะเกิดขึ้นอีก ณ เวลาใด  ดังนั้น หากไม่เตรียมพร้อมรับมือไว้ ความสูญเสียที่เกิดขึ้นอาจไม่สามารถตีค่าได้เลย  


          มาตรการป้องกันภัยจากคลื่นสึนามิ
                                1.เมื่อรู้สึกว่ามีการสั่นไหวเกิดขึ้น ขณะที่อยู่ในทะเลหรือบริเวณชายฝั่ง ให้รีบออกจากบริเวณชายฝั่ง ไปยังบริเวณที่สูงหรือที่ดอนทันที โดยไม่ต้องรอประกาศจากทางการ เนื่องจากคลื่นสึนามิเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง

          2.เมื่อได้รับฟังประกาศจากทางการเกี่ยวกับการเกิดแผ่นดินไหวบริเวณทะเล อันดามัน ให้เตรียมรับสถานะการณ์ที่อาจจะเกิดคลื่นสึนามิตามมาได้โดยด่วน

          3.สังเกตปรากฏการณ์ของชายฝั่งหากทะเลมีการลดระดับของน้ำลงมาก หลังการเกิดแผ่นดินไหว ให้สันนิษฐานว่าอาจเกิดคลื่นสึนามิตามมาได้ ให้อพยพคนในครอบครัว สัตว์เลี้ยงให้อยู่ห่างจากฝั่งมาก ๆ และอยู่ในที่ดอนหรือที่น้ำท่วมไม่ถึง

          4.ถ้าอยู่ในเรือซึ่งจอดอยู่ในท่าเรือหรืออ่าว ให้รีบนำเรือออกไปกลางทะเล เมื่อทราบว่าจะเกิดคลื่น สึนามิพัดเข้าหา เพราะคลื่นสึนามิที่อยู่ไกลชายฝั่งมาก ๆ จะมีขนาดเล็ก

          5.คลื่นสึนามิอาจเกิดขึ้นได้หลายระลอกจากการเกิดแผ่นดินไหวครั้งเดียว เนื่องจากมีการแกว่งไปมาของน้ำทะเล ดังนั้นควรรอซักระยะเวลาหนึ่งจึงสามารถลงไปชายหาดได้

          6.ติดตามการเสนอข่าวของทางราชการอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง

          7.หากที่พักอาศัยอยู่ใกล้ชายหาด ควรจัดทำเขื่อน กำแพง ปลูกต้นไม้ วางวัสดุ ลดแรงปะทะของน้ำทะเล และก่อสร้างที่พักอาศัยให้มั่นคงแข็งแรงในบริเวณย่านที่มีความเสี่ยงภัยใน เรื่องคลื่นสึนามิ

          8.หลีกเลี่ยงการก่อสร้างใกล้ชายฝั่งในย่านที่มีความเสี่ยงภัยสูง

          9.วางแผนในการฝึกซ้อมรับภัยจากคลื่นสึนามิ เช่นกำหนดสถานที่ในการอพยพ แหล่งสะสมน้ำสะอาด เป็นต้น

          10.จัดวางผังเมืองให้เหมาะสม บริเวณแหล่งที่อาศัยควรมีระยะห่างจากชายฝั่ง

          11.ประชาสัมพันธ์และให้ความรู้ประชาชนในเรื่องการป้องกันและบรรเทาภัยจากคลื่นสึนามิและแผ่นดินไหว

          12.วางแผนล่วงหน้าหากเกิดสถานะการณ์ขึ้นจริง ในเรื่องการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดขั้นตอนในด้านการ ช่วยเหลือบรรเทาภัย ด้านสาธารณะสุข การรื้อถอนและฟื้นฟูสิ่งก่อสร้าง เป็นต้น

          13.อย่าลงไปในชายหาดเพื่อดูคลื่นสึนามิ เพราะเมื่อเห็นคลื่นแล้วก็ใกล้เกินกว่าจะหลบหนีได้ทัน

          14.คลื่นสึนามิในบริเวณหนึ่ง อาจมีขนาดเล็ก แต่อีกบริเวณหนึ่งอาจมีขนาดใหญ่ ดังนั้นเมื่อได้ยินข่าวการเกิดคลื่นสึนามิขนาดเล็กในสถานที่หนึ่ง จงอย่าประมาทให้เตรียมพร้อมรับสถานะการณ์

เผยนาทีชีวิต! ชาวบ้านหนีตาย คลื่นยักย์สึนามิญี่ปุ่น

10 ปรากฎการณ์ธรรมชาติน่าสนใจที่เกิดขึ้นทั่วโลก

ในโลกใบนี้มีปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่ น่าสนใจให้เราได้รู้สึกฮือฮาและประหลาดใจอยู่มากมาย บางปรากฎการณ์ก็น่ากลัวเหลือร้าย ขณะที่บางปรากฎการณ์ก็งดงามจับใจอย่างไม่น่าเชื่อ และในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา บนโลกกลม ๆ ใบนี้ก็มีหลากหลายปรากฎการณ์ทางธรรมชาติเกิดขึ้น วันนี้จึงขอนำข้อมูลจากเว็บไซต์ Toptenz.net ว่าด้วยเรื่องของปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่น่าสนใจที่สุดในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มาฝากกัน ไปดูกันหน่อยซิว่า ปรากฎการณ์ที่นับว่าเป็นเรื่องน่าสนใจนั้น มีปรากฎการณ์อะไรบ้าง

    1. ปรากฎการณ์ทะเลสาบเขม่าภูเขาไฟที่อาร์เจนตินา ปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ภูเขาไฟปูเยฮวยทางตอนใต้ของชิลี ได้ปะทุขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน ส่งผลให้เขม่าภูเขาไฟลอยไปตกในทะเลสาบที่อาร์เจนตินาซึ่งเป็นประเทศที่อยู่ ใกล้เคียง และฝุ่นเหล่านี้ก็ไม่ได้ละลายลงไปใต้น้ำด้วย จึงทำให้ทะเลสาบมีลักษณะอย่างที่เห็น คือเต็มไปด้วยฝุ่นผงจากภูเขาไฟ เปลี่ยนน้ำใสให้กลายเป็นทะเลสาบฝุ่นซะอย่างนั้น


10 ปรากฎการณ์ธรรมชาติน่าสนใจที่เกิดขึ้นทั่วโลก

10 ปรากฎการณ์ธรรมชาติน่าสนใจที่เกิดขึ้นทั่วโลก

          2. ปรากฎการณ์พายุฝุ่นยักษ์ ที่ เมืองฟินิกซ์ รัฐแอริโซนาของสหรัฐฯ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว เมื่อพายุฝุ่นขนาดมหึมาได้โถมตัวเข้ากลืนกินเมืองฟินิกซ์ทั้งเมืองให้จมอยู่ ในฝุ่นผง โดยมีรายงานว่าก่อนที่พายุทรายนี้จะโถมซัดเข้ามาในเมือง มันก่อตัวขึ้นสูงถึง 3 กิโลเมตรเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ดี ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการถูกพายุพัด แต่ก็ทำให้เมืองทั้งเมืองเป็นอัมพาตไปชั่วคราว เนื่องจากไฟฟ้าดับ ต้นไม้ล้มระเนระนาด และเกิดอุบัติเหตุจากปัญหาเรื่องทัศนวิสัยในบางพื้นที่ ขณะที่ทางการรัฐแอริโซนาได้ออกมาเปิดเผยว่า มันเป็นพายุฝุ่นยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยพัดผ่านบริเวณนี้เลยทีเดียว



          3. ปรากฎการณ์พายุงวงช้างในออสเตรเลีย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว หลังจากเกิดพายุทอร์นาโดใกล้กับชายหาดทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ปรากฎว่าเกิดพายุงวงช้างตามมาติด ๆ โดยปรากฎการณ์นี้เกิดจากมวลอากาศเย็นเคลื่อนที่ผ่านผิวน้ำที่มีอุณหภูมิสูงก ว่า จึงทำให้เกิดลมพัดเป็นเกลียวคลื่น พาละอองน้ำขึ้นสู่ท้องฟ้า นับเป็นปรากฎการณ์ที่เห็นได้ยาก และเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี ของแถบนี้เลยทีเดียว



          4. ปรากฎการณ์น้ำวนขนาดใหญ่ในญี่ปุ่น หลัง จากเกิดสึนามิในญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ทั้งโลกต่างให้ความสนใจไปที่ความรุนแรงและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย น้อยคนจะได้รู้ว่า หลังจากเกิดสึนามิเพียงไม่กี่ชั่วโมง ได้เกิดปรากฎการณ์น้ำวนขนาดใหญ่ขึ้นในทะเลใกล้ท่าเรือโออาราอิ ซึ่งปรากฎการณ์นี้เกิดจากการเคลื่อนตัวของน้ำอย่างรวดเร็วทำปฏิกิริยากับชาย ฝั่งและพื้นทรายใต้ทะเลนั่นเอง

10 ปรากฎการณ์ธรรมชาติน่าสนใจที่เกิดขึ้นทั่วโลก

          5. ปรากฎการณ์หิมะตกหนักในทะเลทรายที่เก่าแก่ที่สุดในโลก บริเวณทะเลทรายในประเทศนามิเบียในทวีปแอฟริกาใต้ เป็นดินแดนทะเลทรายที่มีหิมะตกทุก 10 ปี ในฤดูหนาว แต่ด้วยความแปรปรวนของสภาพอากาศบนโลก ทำให้มันตกลงมาหลังฤดูร้อนเพียงไม่นาน เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว นับเป็นปรากฎการณ์ที่สร้างความประหลาดใจให้กับผู้เชี่ยวชาญและชาวเมืองมาก แถมหิมะยังตกต่อเนื่องตั้งแต่เช้ายันบ่าย อุณหภูมิต่ำลงมากที่สุดถึง -7 องศาเซลเซียส หนาวสั่นแบบไม่ทันตั้งตัวเลยล่ะ

10 ปรากฎการณ์ธรรมชาติน่าสนใจที่เกิดขึ้นทั่วโลก

          6. ปรากฎการณ์ฟองโฟมพัดเข้าชายฝั่งอังกฤษ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเขตคลีฟลีย์ เมืองลังคาเชียร์ของอังกฤษ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เมื่อฟองโฟมมหาศาลจากทะเลได้พัดเข้าชายฝั่งทะเล ทำให้เห็นเป็นฟองโฟมคาปูชิโนอย่างที่เห็น ส่วนสาเหตุที่เกิดปรากฎการณ์นี้นั้น ผู้เชี่ยวชาญได้อธิบายว่า  มันเกิดจากโมเลกุลไขมันและโปรตีนของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในทะเล ทำปฏิกิริยากันจนกลายเป็นฟองโฟม ก่อนจะพัดเข้าสู่ชายฝั่ง ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางรายก็ได้ออกมาอธิบายขัดแย้งกันว่า เกิดจากการเน่าเปื่ยของซากพืชซากสัตว์ในทะเล ทำปฎิกิริยากับสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น จนก่อให้เกิดเป็นโฟมเหล่านี้



          7. ปรากฎการณ์ทอร์นาโดไฟในบราซิล เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้ไม่บ่อย แต่ก็ไม่ได้เว้นช่วงนานนัก มันเกิดจากการที่มีไฟไหม้ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ป่าตามธรรมชาติหรืออะไรก็ตาม จากนั้นมันก็ถูกกระแสลมม้วนตัวขึ้นสู่ที่สูง กลายเป็นทอร์นาโดไฟที่น่ากลัวอย่างที่เห็น

10 ปรากฎการณ์ธรรมชาติน่าสนใจที่เกิดขึ้นทั่วโลก

10 ปรากฎการณ์ธรรมชาติน่าสนใจที่เกิดขึ้นทั่วโลก

          8. ปรากฎการณ์ใยแมงมุมคลุมต้นไม้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปากีสถานเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว แน่นอน มันเกิดจากการที่แมงมุมนับล้านตัวมาร่วมกันชักใยบนต้นไม้ แต่ทำไมมันต้องมาอยู่บนต้นไม้คราวละเป็นล้านอย่างนี้ล่ะ? เรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญเฉลยว่า เจ้าแมงมุมนับล้านเหล่านี้มันหนีน้ำท่วมครั้งใหญ่นั่นเอง เลยจำเป็นต้องมารวมตัวกันในที่สูง ๆ ไว้อย่างที่เห็นนี่แหละ



          9. ปรากฎการณ์เสียงจากทะเลน้ำแข็ง ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรให้นึกภาพนึกเสียงออก เอาเป็นว่าลองชมคลิปวิดีโอนี้ดูสักหน่อย มันเป็นปรากฎการณ์ที่ความเย็นของน้ำแข็งและน้ำเย็นเฉียบ ทำปฎิกิริยากับสภาพอากาศเบื้องบนที่อุ่นกว่า เลยเกิดเสียงอย่างที่ได้ยินจากคลิปนี้ เหมือนกับเวลาที่เรานำขวดน้ำเย็นปิดฝาเกือบสนิทมาวางไว้นอกตู้เย็นนั่นแหละ


10 ปรากฎการณ์ธรรมชาติน่าสนใจที่เกิดขึ้นทั่วโลก

          10. ปรากฎการณ์ไอน้ำบนทะเลดำ เกิดขึ้นในทะเลดำที่อยู่ระหว่างทวีปยุโรปและเอเชียไมเนอร์ ที่เมื่อมันมีอุณหภูมิต่ำมาก ๆ ก็จะทำให้เกิดไอน้ำลอยขึ้นไปเหนือน้ำ บางครั้งก็งดงามจนเหมือนมีใครเอาน้ำแข็งแห้งไปวางไว้เลยทีเดียวล่ะ

          อย่าง ไรก็ดี ปรากฎการณ์ที่น่าสนใจบนโลกใบนี้ ไม่ได้มีเพียง 10 ปรากฎการณ์ข้างต้นเท่านั้น และจริง ๆ แล้ว ธรรมชาติก็สร้างปรากฎการณ์มหัศจรรย์ให้เกิดขึ้นได้เสมอ อยู่ที่ว่าเราจะสังเกตเห็นมันหรือเปล่า เอ้า.. คราวนี้ เราลองมามองรอบตัวกันบ้างดีกว่า ว่าในแต่ละวันนั้น มีปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่น่าประทับใจรูปแบบไหนที่เกิดขึ้นบ้าง ฮิฮิ